ทำไม คอกกันกระแทก หรือ คอกกั้นเด็ก ของ trexthai จึงผลิตจากวัสดุ พียูฟู้ดเกรด (PU Food Grade) เพราะวัสดุที่ผลิตจาก ฟู้ดเกรด (Food Grade) นี้ถือว่าความสะอาด และปลอดภัยต่อผู้ใช้อย่างแน่นอน ซึ่งวัสดุการผลิตต่างๆที่นำมาเป็นส่วน ของสินค้าและผลิตภัณฑ์อาจอยู่ในรูปที่เรามองเห็นภายนอกเหมือนเป็นพวกพลาสติก ซึ่งหลายคนเต่างตั้งคำถามอยู่บ่อยครั้งว่า สินค้าเหล่านี้ปลอดภัยต่อผู้บใช้ หรือลูกน้อยของคุณหรือไม่ ซึ่งคุณแม่มือใหม่วางใจได้เลยกับสินค้าที่ผลิตจากฟู้ดเกรดหรือเกรดอาหาร (Food Grade)ช่วยบ่งบอกว่า ปลอดภัยต่อเด็ก100% คุณแม่จึงควรเลือกสินค้าที่ผลิตจากวัสดุฟู้ดเกรดนี้ เพราะเด็กจะมีพฤติกรรมทั้งชอบกัดขอบที่นอนหรือกัดของเล่นต่างๆ ซึ่งสินค้าที่ผลิตจากฟู้ดเกรดนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก หรือเลี่ยงไม่ได้เลี่ยงกับการที่ลูกน้อยของคุณต้องสัมผัสกับที่นอน คอกกั้นโดยตรง ผิวสัมผัสที่ผลิตจากฟู้ดเกรด (Food Grade)นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังเป็นมิตรต่อผิวของเด็กอีกด้วย เรียกว่าคุณแม่ที่เป็นกังวลในเรื่องจะเลือกสินค้าให้ลูกอย่างไรนั้น บอกได้เลยว่าควรเป็นสินค้าที่เป็นฟู้ดเกรด (Food Grade) ไม่ก่อให้เป็นอันตราย ปลอดภัยกับลูกน้อยได้แบบหมดห่วง

หรือถ้าอธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆก็คือฟู้ดเกรด (Food Grade) จะได้รับมาตราฐานที่รับรองว่าสิ่งนั้นๆ สามารถใช้กับการผลิตหรือสัมผัสกับอาหารได้ โดยตามปริมาณที่กฏหมายกำหนด ในสายการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ยา เครื่องสำอางค์ สินค้าเครื่องใช้ หรือถ้าจะอธิบายกันง่ายๆก็คือ สินค้าที่ผลิตจากฟู้ดเกรด (Food Grade) นั้นจะได้รับมาตราฐานการรับรองว่าปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายนั่นเอง ฉนั้นอย่าเลือก คอกกั้นโซฟาราคาถูก นะจ้ะ อาจไม่ปลอดภัยกับทารก

สินค้าฟู้ดเกรด (Food Grade) โดยทั่วไปจะใช้ในการบงบอก อธิบายเครื่องมืออุปกรณ์และ อุปกรณ์ที่มีคุณภาพเพียงพอที่จะใช้สำหรับการผลิตอาหาร การจัดเก็บอาหาร หรือเพื่อเตรียมอาหาร ซึ่ง ฟู้ดเกรด (Food Grade) มีความสำคัญด้านความปลอดภัยในทางปฏิบัติในหลายอุตสาหกรรม จึงนำมาสู่การพัฒนาจากอาหารให้มาเป็นสินค้าของเด็ก ที่จะทำให้คุณแม่รู้สึกปลอดภัย วางใจและยกระดับของสินค้าให้ก้าวสู้ระดับที่สูงขึ้น ทั้งยังตอบสนองลักษณะทางความนิยมทางสังคม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ชนิดของพลาสติกที่นิยมนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ฟู้ดเกรด (Food Grade)
1. PP : POLYPROPYLENE
พอลิโพรไพลีน (polypropylene) พลาสติกที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร มีความแข็งและเหนียว คงรูปดี ทนต่อการหักงอได้ ทนต่อความร้อนและสารเคมี มีความใส ป้องกันการผ่านของความชื้นได้ดี แต่ป้องกันการผ่านของอากาศได้ต่ำ และไม่ทนต่อความเย็น มักใช้ในการผลิตถุงทนร้อน ทำบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารในครัวเรือน เช่น จาม ชาม ถ้วย
2. HDPE : High Density Polyethylene
พลาสติกพอลิเอทิลีน (polyethylene, PE) นิยมนำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ พลาสติกมีความแข็งแรง ความใสไม่มากนัก แสงผ่านได้น้อย สามารถใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรด และด่าง เพราะไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี มีความเหนียว ยืดหยุ่น ทนทานต่อการแตกหรือหักงอได้ดี ป้องกันการผ่านของอากาศได้ต่ำ จึงไม่เหมาะสำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ใช้การอัดอากาศ ป้องกันการซึมผ่านของความชื้นได้สูงมาก ทนความร้อนได้เล็กน้อย
3. LDPE : Low density polyethylene
พลาสติกพอลิเอทิลีน (polyethylene) หรือถุงเย็น พลาสติกที่ไม่ทนความร้อน นิ่ม ยืดหยุ่นได้ดี ทนต่อการทิ่มทะลุ และการฉีกขาด เหนียว ไม่กรอบแตกง่าย แต่ความแข็งและทนทานน้อยกว่า HDPE โปร่งแสง มีความใสน้อยกว่า PP แต่ใสกว่า HDPE ไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี ทนต่อกรดและด่าง ป้องกันการผ่านของความชื้นได้ดี ออกซิเจนและอากาศซึมผ่านได้ ไขมันซึมผ่านได้ นิยมนำมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารเช่น ถุงเย็น ฟิล์มหดและฟิล์มยืด ขวดน้ำ ฝาขวด ใช้ผลิตแผ่นฟิล์มที่ใช้รวมกับวัสดุอื่น เป็นวัสดุประสาน (laminate) เพื่อปิดผนึกด้วยความร้อน และใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อ (aseptic packaging)
4. PET : Polyethylene Terephthalate

เป็นสารพอลิเมอร์ สารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิต PET นั้นได้จากอุตสาหกรรมน้ำมัน ทั้งนี้ความบริสุทธิ์ของสารตั้งต้นเป็นสิ่งสำคัญมาก และมีผลต่อคุณภาพของ PET โดยเฉพาะเมื่อใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุอาหาร มีความเหนียว ทนทาน มีความยืดหยุ่นต่อแรงกระทบกระแทก จึงไม่แตกเมื่อถูกแรงกดดัน ในเบื้องต้น PET ได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อการบรรจุน้ำอัดลม โดยเฉพาะสมบัติเด่นทางด้านความใสแวววับเป็นประกาย ได้รับความนิยมในการบรรจุน้ำมันพืชและน้ำดื่ม PET ในรูปแบบฟิล์มมีคุณสมบัติในการป้องกันการซึมผ่านของก๊าซได้เป็นอย่างดี จึงมีการนำไปเคลือบเพื่อทำเป็นซองสำหรับบรรจุอาหารที่มีความไวต่อก๊าซ เช่น ขนมขบเคี้ยว นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารแช่เยือกแข็ง บรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ อาหารปรุงสุกสำหรับอุ่นแบบต้มทั้งถุง
http://t-rexkids.lnwshop.com/